วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กิจกรรมที่ 6

การติดต่อสื่อสารโดยใช้บล็อกเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และเป็นช่องทางที่ประหยัดทรัพยากรทั้งเงินและเวลา ได้เรียนรู้วิธีการใช้เทคโนโลยี อาจารย์ผู้สอนและผู้เรียนตรวจสอบการติดต่อกันได้ตลอดเวลา จึงเป็นวิธีการที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถ้าในบทบาทครูใช้ในการเรียนการสอนจะเป็นช่องทางที่สะดวกในการติดต่อระหว่างครูกับนักเรียน เช่น การสั่งงาน-ส่งงาน การประชาสัมพันธ์/ชิ้แจงเรื่องต่างๆ ส่วนในบทบาทการบริหาร ครูกับผู้บริหาร/ฝ่ายบริหาร ครูกับครูสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลา กลายเป็นเรื่องที่สะดวกและทันสมัย ที่อาจจะเสี่ยงคือสายตาและผลกระทบต่อระบบประสาทอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าปลอดภัย สำหรับปัจจุบันถือว่าการใช้บล็อคดีและเหมาะสม สรุป เรียนวิชานี้ช่วยสร้างความสนใจ กระตุ้นให้ใฝ่รู้และมีความสุขในทำงาน

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทัศนศึกษาดูงาน

กิจกรรมที่ 5 การศึกษาดูงานประเทศมาเลเซีย  -  สิงคโปร์

กิจกรรมการศึกษาดูงานเป็นกิจกรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งการเรียนตามหลักสูตร ป.บัณฑิต (บริหารการศึกษา) เพราะจะทำให้นักศึกษาได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้ การบริหารจัดการการศึกษานอกสถานที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ไปศึกษาดูงานด้านการบริหารการจัดการศึกษา ณ ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ นับได้ว่าได้เป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์เป็นอย่างมาก ซึ่งข้าพเจ้าขอเล่าขั้นตอนการไปศึกษาดูงาน เล่าบรรยากาศ พร้อมด้วยภาพถ่ายสถานที่ต่างๆ ดังนี้
1.การวางแผน เริ่มจากการประชุมชี้แจงโครงการกับเพื่อในชั้นเรียน
2.มติที่ประชุมทั้งหมดตกลงไปศึกษาดูงานประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ในระหว่างวันที่ 24-28 ม.ค.2554  วันที่ 1 ของการเดินทาง กำหนดเวลาเดินทางวันที่ 24 ม.ค.54 ด้วยรถทัวร์ของบริษัทศิรินครทัวร์ ออกจาก ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช เวลา 04.00 น. และแวะรับสมาชิกรายทาง ณ จุดต่างๆ เช่น อ.ร่อนพิบูลย์ สามแยกสวนผัก และที่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ถึงด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย เวลาประมาณ 11.00 น. จัดการเกี่ยวกับเอกสารการเดินทางออกนอกประเทศเสร็จเรียบร้อย และเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย ผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทางและสัมภาระ

หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วนั่งรถเดินทางสู่ประเทศมาเลเซีย ชมบรรยากาศ ภูมิประเทศ รู้สึกว่าแตกต่างกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ถนนหนทางกว้างขวาง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การขับรถส่วนใหญ่ผู้คนมีการเคารพกฏจราจรอย่างเคร่งครัด นั่งรถไปเรื่อย ๆ ชื่นชมกับธรรมชาติและบรรยากาศสองข้างทาง เพลิดเพลินกับการฟังเพลงเพราะๆ บนรถสลับกับการสนทนาพูดคุย และถึงจุดแรกคือโรงเรียน Kodiang เป็นโรงเรียนประถมศึกษา ตั้งอยู่ในรัฐเคดาห์ มีนักเรียน 500 กว่าคน ครู 50 กว่าคน จัดการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาลถึง ประถมศึกษา เปิดสอนตั้งแต่ 07.00-12.00 น.ที่ประเทศมาเลเซียนักเรียนจะเรียนถึงเที่ยง ส่วนครูนั้นทำการจนถึงประมาณบ่ายสามโมง บรรยากาศในห้องเรียนก็เรียบร้อยดีมาก วันที่ไปถึงนักเรียนเหลืออยู่บางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่ดูแล้วเรียบร้อยดี ไม่วุ่นวายเหมือนกับนักเรียนบ้านเรา การจัดห้องสำนักงาน และสิ่งแวดล้อมก็เรียบร้อย เรียบง่าย เน้นความเป็นระเบียบ อาคารเรียนอนุบาลก็แยกต่างหาก ห้องน้ำห้องส้วมสะอาด สรุปภาพรวมแล้วการดูงานที่โรงเรียนแห่งนี้ได้เห็นลักษณะการบริหารจัดการ และบรรยากาศโดยรวมแล้วบางอย่างก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในบ้านเราได้หลายอย่าง หลังจากเยี่ยมชมเสร็จแล้วก็ได้มีพิธีการกล่าวต้อนรับของผู้บริหารโรงเรียน Kodiang และกล่าวขอบคุณ พร้อมมอบของที่ระลึกจากคณะนักศึกษา หลังจากนั้นทางโรงเรียนได้จัดอาหารกลางวันคือข้าวมันไก่ไว้เลี้ยงต้อนรับ เสร็จจากนั้นก็อำลากลับขึ้นรถเพื่อเข้าสู่เกาะปีนังต่อไป
หลังจากนั้นก็เดินทางเข้าสู่เกาะปีนัง ระหว่างที่นั่งผ่านสองข้างทางระหว่างรัฐเคดาห์ อลอสตาร์ ฮิโปห์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม คือการทำนาที่กว้างใหญ่มาก พื้นที่สีเขียวเต็มทั้งสองข้างทาง และที่น่าประทับใจอีกอย่างคือสองข้างทางถนนที่รถแล่นอยู่นั้นจะมีรั้วรอบ คล้ายกับตะแกรงเหล็ก ทราบจากไกด์ว่าถนนนี้เป็นถนนมอร์เตอร์เวย์ที่รัฐให้บริการประชาชนซึ่งได้กำหนดไว้ว่าจะต้องรั้วเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงที่อาจจะออกมาวิ่งเพ่นพ่านตามท้องถนนอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ และอีกอย่างหนึ่งคือประทับใจห้องน้ำ ห้องน้ำที่นี่สะอาดมากเพราะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตลอด 24 ชั่วโมง การเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมัน ถ้าที่บ้านเราจะมีพนักงานปั๊มมาบริการเติมให้ แต่ที่มาเลเซียเจ้าของรถต้องลงมาเติมเองวิธีการคือ ดับเครื่องรถ ไปซื้อบัตรเป็นการ์ดจากเจ้าหน้าที่แล้วมารูดเองว่าจะเติมกี่ลิตร แต่ที่มาเลย์เขากำหนดให้รถแต่ละคันเติมได้ไม่เกิน 20 ลิตรต่อคัน และต้องเข้าคิวตามลำดับก่อนหลัง

นั่งรถไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่เกาะปีนั่งในตอนค่ำ เกาะปีนังนี้เมื่อก่อนเป็นของไทยแต่เราต้องเสียดินแดนส่วนนี้ให้กับอังกฤษในสมัย ร.1 เกาะปีนังเป็นรัฐหนึ่งของมาเลย์ เป็นที่ทันสมัยมากมีตึกหรูๆ มากมายหลายตึก มีผู้คนอาศัยอยู่หลายเชื้อชาติ เช่น คนจีน คนอิสลาม ฮินดู และอื่นๆ สภาพโดยทั่วไปคล้ายกับเกาะฮ่องกง มีแหล่งสำคัญ เช่นย่านธุรกิจ ย่านอุตสาหกรรมขนส่งทางเรือ ย่านที่พักอาศัย แต่ที่น่าประทับใจอย่างหนึ่งในมาเลย์คือทุกเมืองเขาจะอนุรักษ์ต้นไม้ การตกแต่งดูแลสิ่งแวดล้อมมีความร่มรื่น และในตัวเมืองคนเขามีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูไม่วุ่นวายเหมือนบ้านเรา จากนั้นก็รับประทานอาหารเย็น อาหารการกินที่มาเลย์ก็รู้สึกว่าเป็นอาหารรสชาติจืดๆ ไม่คุ้นลิ้นกับคนไทยที่พวกเราชอบ แต่ด้วยความหิวอาหารเย็นมื้อแรกก็เกลี้ยงหมดทุกเมนู หลังจากนั้นก็กลับเข้าพักผ่อนที่โรงแรม
วันที่ 2 ตื่นเช้าเวลา 05.00 น บ้านเรา แต่มาเลย์เวลา 06.00 น. อาบน้ำแต่งตัวเสร็จรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางออกจากโรงแรมไปยังป้อมปืนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เดินทางเข้าสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ใช้ระยะทางประมาณ 800 กว่า ก.ม.ก็เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสองข้างทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์แวะชมพระราชวังของประเทศมาเลเซีย อนุสรณ์ทหารอาสา ถ่ายรูปที่ระลึกตึกแฝดที่เลื่องชื่อ หลังจากนั้นเดินทางสู่เกนติ้งเมืองมหานครแห่งความบันเทิงบนภูเขาสูงด้วยกระเช้าไฟฟ้า(SKY WAY)ที่ทันสมัยและรวดเร็ว ปลอดภัย ท่ามกลางความตื่นเต้น ทึ่งกับทัศนียภาพของขุนเขา และเข้าพักที่โรงแรม พร้อมเดินชมศูนย์รวมความบันเทิง และบ่อนคาสิโนหลากหลายชนิด
วันที่ 3 เดินทางออกจากเกนติ้งถึงเมืองใหม่ปุตราจายา ซึ่งเป็นเมืองใหม่ศูนย์รวมสถานที่ราชการของมาเลเซีย ชมตึกรัฐสภา มัสยิดสีชมพู เสร็จแล้วเดินทางต่อไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองโยโฮบารูเพือเข้าสู่ประเทศสิงคโปร์ เสร็จพิธีการ รับประทานอาหารเย็น เช็คอินเข้าสู่ที่พัก

วันที่ 4 รุ่งเช้าหลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วเดินทางไปยังอ่าวสิงคโปร์ ถ่ายรูปกับรูปปั้นสิงโตพ่นน้ำที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ และเที่ยวย่านการค้าบริเวณถนนออร์ชาร์ด เที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังเกาะเซ็นโตซ่า ศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกของสิงคโปร์ ชมภาพยนต์ 4 มิติ ที่ทันสมัยเหมือนนั่งอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ และเข้าชม Song of the sea ที่สวยงาม และตระการตาทั้งภาพและเสียง และรับประทานอาหารเย็นที่เกาะเซ็นโตซ่า เสร็จแล้วล่องเรือชมความงามยามค่ำคืนของสิงคโปร์ จากนั้นเดินทางออกจากสิงคโปร์เข้าสู่เมืองยะ

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แนะนำตนเอง

ประวัติ



นายจักรี   ถนิมกาญจน์                
ชื่อเล่น  ต้อม
เกิดวันที่  6  เมษายน  2518
จบการศึกษา  ปริญญาตรี  มหาวิทยาลัยราชภัชนครศรีธรรมราช  ปี  2541
บรรจุครั้งแรก   โรงเรียนบ้านจืองา    อ.เมือง  จ. นราธิวาส  ปี   2547  -  2548
มาดำรงตำแหน่ง  โรงเรียนวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์  อ.ดอนสัก   จ.สุราษฏร์ธานี  2549 - 2553
ปัจจุบันทำงาน   โรงเเรียนบ้านช่องเขาหมาก  ต.สี่ขีด  อ.สิชล  จ.นครศรีธรรมราช
คติประจำใจ   ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
งานในหน้าที่     หัวหน้ากลุ่มสาระวิทยาศาสตร์

ข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียน


โรงเรียนบ้านช่องเขาหมาก ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยอาศัยนชุมชนที่เรียกว่า "ชุมชนเขาหมาก" โดยมีเนื้อที่ทั้งหมด 26 ไร่ 3 งาน 45 ตารางวา
 โรงเรียนตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2510 โดยมี
นายเจริญ ตราชู นาอำเภอสิชล เป็นประธาน ปีแรกเปิดสอนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
มีนักเรียน 45 คน นายหอม แพทย์รัตน์ รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ มีครูผู้ช่วย 1 คน
คือนางสาวประทีป ถือแก

ปัจจุบันโรงเรียนบ้านช่องเขาหมาก โดยการนำของนายนพวงศ์ จิตต์อารีย์ ได้ดำเนินการ
พัฒนาโรงเรียน พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพตามเจตนารมย์
ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยเปิดสอน
 ตั้งแต่ระดับอนุบาล 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3

จุดเด่น
โรงเรียนบ้านช่องเขาหมาก มีผลงานดีเด่นด้านกีฬาเปตอง จัดตั้งชมรมเปตองนักเรียน
ที่แข่งขันได้รับผลงานตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับเขต และได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาติ
นับเป็นความภาคภูมิใจของเราชาวเขาหมาก

จุดด้อย
โรงเรียนบ้านช่องเขาหมากพื้นที่ส่วนใหญ่มีที่ว่างน้อย  ทำให้พื้นที่ที่ใช้เล่นกีฬาอื่นที่ใช้พื้นที่
ไม่สามารถเล่นได้ 

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การใช้งาน SPSS

การใช้งานโปรแกรม SPSS 
โปรแกรม SPSS เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่นิยมใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติอีกโปรแกรมหนึ่ง  ใช้กับปฏิบัติการ Window 95 ขึ้นไป หน่วยประมวลผลกลางขั้นต่ำ คือ เพนเทียม โดยมีหน่วยความจำ 32 เมกกะไบต์ และพื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสค์อย่างน้อย 68 เมกกะไบต์
•  การเริ่มต้นสู่โปรแกรม
เมื่อคลิกที่โปรแกรม SPSS จะเข้าสู่โปรแกรมดังรูป ซึ่งหากมีแฟ้มข้อมูลเดิม จะสามารถเลือกจากหน้าต่างนี้ หากต้องการเริ่มต้นใหม่ ให้คลิก Cancel เพื่อเข้าสู่ส่วนตารางทำงาน หรือที่เรียกว่า Data Editor  
•  ข้อกำหนดโปรแกรมทั่วไป
SPSS แบ่งส่วนที่ใช้ป้อนข้อมูลเป็น sheet 2 ส่วน หรืออาจเรียกเป็น Tab ได้แก่
Data View : เป็นส่วนสำหรับใส่ข้อมูล ซึ่งแสดงชื่อตัวแปรเป็น Var ทุกคอลัมน์เมื่อทำการป้อนข้อมูล จะเปลี่ยนเป็น Var00001 Var00002 … หากต้องการกำหนดชื่อตัวแปรเป็นอย่างอื่น ให้เลือกที่ Variable View จาก Sheet Tab ส่วนแถวจะอ้างอิงตั้งแต่ 1, 2, 3 ไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม หากพบว่าตัวอักษรที่แสดงชื่อตัวแปรหรือแถว มีขนาดเล็กมองไม่สะดวก สามารถเปลี่ยนได้โดยการเลือกเมนู View \ Fonts… เพื่อเลือกชนิดอักษรและขนาดตามต้องการ ( แนะนำให้ใช้ MS San Serif ขนาด 10 point)
Variable View : เป็นส่วนที่กำหนดลักษณะเฉพาะต่าง ๆ ของตัวแปร ได้แก่ ชื่อตัวแปร ( มีได้ไม่เกิน 8 ตัวอักษรรวมตัวเลข โดยห้ามเว้นช่องว่างหรือวรรค และห้ามมีสัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น วงเล็บ เครื่องหมายบวก ลบ คูณ หาร เป็นต้น ) จำนวนทศนิยมความกว้างของคอลัมน์ Label ( ใช้ระบุรายละเอียดของตัวแปรซึ่งจำกัดเพียง 8 ตัวอักษร แต่ Label สามารถพิมพ์ข้อความได้มากกว่า รวมทั้งมีช่องว่างหรือสัญลักษณ์ใด ๆ ได้ ) เป็นต้น
•  การนำข้อมูลเข้าสู่ Work sheet หรือ Data Editor
สำหรับการนำข้อมูลเข้าสู่ Data Editor สามารถทำได้หลายวิธี แต่ 2 วิธีที่นิยม ได้แก่
•  การเปิดไฟล์จากไฟล์ประเภทอื่น
โดยโปรแกรม SPSS สามารถที่จะเปิดไฟล์ได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไฟล์จากโปรแกรม Excel, Lotus, Sysstat หรือ Dbase สามารถเปิดได้โดยใช้เมนู File \ Open \ Data จากนั้นเลือกชนิดของไฟล์ เลือก Drive และ Folder ให้ถูกต้อง
•  การป้อนข้อมูลโดยตรง
ในการป้อนข้อมูล หากต้องการป้อนข้อมูลเข้าอย่างโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ใน Data Editor สามารถทำการ Copy และ Paste ข้อมูลในลักษณะของ Spread sheet ทั่วไปได้ ทำให้สะดวกต่อการใช้ป้อนข้อมูล
•  เมนูสำหรับการวิเคราะห์ผลทางสถิติ
ในการวิเคราะห์นั้น จะใช้เมนู Statistics ดังรูป โดยจะมีเมนูย่อยที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางสถิติต่าง ๆ เช่น Descriptive Statistics, Compare Mean, General Linear Model, Correlation หรือ Regression เป็นต้น